29 กรกฎาคม 2551

อย่าปล่อยให้คนไทยทำร้ายกัน

การใช้กำลังของกลุ่มต่อต้าน ทำร้ายร่างกายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อสกัดกั้นการชุมนุมที่ จ.อุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถห้ามปราม ระงับเหตุได้ และมีแนวโน้มที่การใช้ความรุนแรงต่อต้านจะลุกลามออกไปในจังหวัดต่าง ๆ จนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้แนวร่วมทั่วประเทศยุติการเปิดเวทีตามต่างจังหวัด เข้ามาสมทบการชุมนุมที่กรุงเทพฯ นั้น เป็นสถานการณ์ที่ทำให้หลายฝ่ายวิตก นับแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีแสดงความกังวลกับความแตกแยก ขณะเดียวกันนายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เกรงว่าจะบานปลายยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ความรุนแรงในอดีต เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้น เป็นการปลุกระดมให้ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธเข้าสลาย มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ส่งผลให้เกิดความแตกแยกในสังคมครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ นายธีรยุทธ ระบุว่า มีความรุนแรงย่อย ๆ ระหว่างมวลชนเกิดขึ้นหลายจังหวัด และมีโอกาสขยายให้ยืดเยื้อในวงกว้าง อาจถึงขั้นจลาจล หรือลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง ที่การรัฐประหารก็จะควบคุมไม่อยู่ ใช่แต่เพียงบุคคลสำคัญของบ้านเมืองและนักวิชา การจะกังวล แต่การสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วไป โดยมหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.3 กังวลมาก ว่าความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองจะทำให้ประชาชนเข้าสู่สภาพบ้านป่าเมืองเถื่อน อีกร้อยละ 11.2 กังวลค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.4 เห็นว่าคดีความและความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองขณะนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยวิธีที่สาธารณชนเห็นว่า ผู้มีอำนาจและประชาชนจะช่วยกันทำให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติได้ ส่วนมากหรือร้อยละ 93.7 เชื่อว่าอยู่ที่ความรักและความสามัคคี รองลงมาคือร้อยละ 91.8 เห็นว่าควรยึดมั่นในกติกา กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทุกฝ่ายตระหนักว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่จะขยายตัวเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างยิ่ง และวิธีที่ดีที่สุดอยู่ที่ความสามัคคี ส่วนปัญหาคดีความต่าง ๆ ก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ที่น่าเป็นห่วงประการหนึ่งก็คือ การละเลยต่อการป้องกันระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้อง แต่เลือกรอให้เหตุการณ์ผ่านไปแล้วค่อยเอาภาพผู้กระทำความผิด ที่สื่อมวลชนบันทึกไว้มาดำเนินคดี ซึ่งไม่น่าจะเป็นวิธีจัดการความรุนแรงที่ได้ผล ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายได้ว่า การมีกลุ่มต่อต้านกระจายตัวไปแทบทุกจังหวัดเพื่อเล่นงานการชุมนุม ย่อมไม่ใช่ความบังเอิญ แต่น่าจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งควรจะสืบสวนสอบสวนเอาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อมิให้สมุนทั้งหลายไปก่อเหตุร้ายที่มุ่งหมายเพื่อการจลาจลได้อีก.


ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=60836&NewsType=2&Template=1

11 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รักกันไว้เถิด


เราเกิดร่วมแดนไทย




รักกันรักกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยกับข่าวเป็นอย่างสูง





แต่เราจะทำอย่างไรล่ะ






ต่างคนก็ต่างคิดต่างทำ







ไม่ร่วมมือกันทำเพิ่อคนไทยอย่างแท้จริง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใช่แล้ว แล้วใครจะมาเป็นฮีโร่ช่วยคนไทยละนี่ ชีวิตจริงไม่เหมือนในการ์ตูนนี่คับ เราทุกคนต้องช่วยกัน อย่าแบ่งพรรคแบ่งพวกกันมากนักเลย เห็นใจกันบ้าง นะคับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แระเราจะทำยังไงดี ก็เราทำอะไรไม่ได้นิ ต่างพรรคต่างพวก







เฮ่อ!



จะทำยังไงดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

"อย่าปล่อยให้คนไทยทำร้ายกัน"

เหงด้วยค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใช่ คนไทยควรรักกัน
แต่เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน
ความเป็นประชาธิปไตยมีสูง
คนก็เลยแสดงออกด้วยวิธีการแบบนี้
ส่วนคนที่ไม่อยากรับรู้ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การใช้กำลังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เด็กน้อยคนไหนๆ ก็รู้

ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม คนที่โตแล้ว

คิดเองได้แล้ว ถึงยังใช้กำลังมาสยบปัญหาด้วย

ไม่พอใจก็ทำร้าย ก็ทำให้สยบราบคาบ

ไม่ต้องการให้ใครมีความเห็นแตกต่าง

ประเทศเราเป็นประชาธิปไตย มันต้องมีหลายความเห็น
อยู่แล้ว แต่ความเห็นส่วนใหญ่นั่นแหละ คือข้อยุติ

ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ มันก็คือ ข้อยุติ คือมติ

ถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลง ก็ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่ตัวของเราเอง โดยการรับรู้ข้อมูลต่างๆ ให้มาก

แล้ววิเคาะห์ความจริง นอกเหนือจากนั้นก็ต้องให้ข้อมูลกับคนอื่นๆ แล้วให้เขาพิจารณา ไม่ใช่ยัดเยียด

ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง

ไม่ใช่หักดิบแบบที่พยายามทำกันอยู่ทุกวันนี้

มันเสีย มากกว่าได้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่ะนะ หลายสถานการณ์บางทีมันอาจจะไม่รุนแรง หรือบานปลายได้หากไม่มีผู้ที่ต้องการที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเข้ามาแทรกแซงแสดงตนเพื่อหวังที่จะได้เป็นฮีโร่ วีรบุรุษจอมปลอมที่เข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์จากคนไทยด้วยกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เขามาเพื่อทำร้าย ทำลาย ก่อนทีเขาจะหายไปอย่างไร้ซึ่งตัวตน

เขามาเพื่อฉกฉวย ตักตวง ก่อนที่เราจะล่วงรู้ เขาก็อันตรทาน

เขามาเพื่ออำนาจ ชื่อเสียง ก่อนที่เขาจะจากไปโดนทอดทิ้งเรา
ไว้เบื้องหลัง

เขามาเพื่อแสวงหาในสิ่งที่เขาต้องการ ก่อนที่เราจะล่วงรู้ เราก็สูญเสียในสิ่งที่เราต้องการ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนไทยถ้าไม่รักกันเองแล้วจะให้ใครมารักเรา

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยค่ะ

ถ้าคนไทยไม่รักกัน
แล้วใครที่ไหนจะมารักเราล่ะค่ะ

ไมต้องทำร้ายกันด้วย
เหอ ๆ

ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย